วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ช่วยยืดอายุการใช้งาน ทำอย่างไร?

ชาร์จ
รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยมีแบตเตอรี่เป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าให้รถเคลื่อนตัวได้ หากแบตเตอรี่รถไฟฟ้าใกล้หมด จะต้องทำการ          ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้รถสามารถใช้งานขับได้ต่อไป จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้องเพื่อเป็นการถนอมอายุ                การใช้งานของแบตเตอรี่

1. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 0%

     หลีกเลี่ยงการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง 0% แล้วถึงจะทำการชาร์จไฟ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ทำงานหนักจนร้อนเกินไปเมื่อทำการชาร์จไฟฟ้า และจะส่งผลทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้ในที่สุด ทางที่ดีพยายามรักษาแบตเตอรี่รถให้อยู่ที่ 20% แล้วทำการชาร์จจะดีที่สุด

 

2. ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100%

     การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เต็ม 100% เสี่ยงต่อการที่จะทำให้แบตเตอรี่ของรถเสื่อมเร็ว โดยมีผลการทดลองมาแล้วว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมคือ ควรชาร์จไฟแบตเตอรี่รถให้อยู่ระหว่าง 80%-90% เพื่อระบบ Regenerative braking (ระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ) สามารถทำงานได้ทันที และยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าเบรกอีกด้วย

 

3. เลี่ยงการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบริเวณที่อุณหภูมิสูง

     หากเราทำการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูง อากาศที่ร้อนจัด จะเสี่ยงที่จะทำให้อายุของแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมได้ไวขึ้น ควรจอดชาร์จไฟในพื้นที่ร่มเพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพที่ดี รวมไปถึงการเลี่ยงการจอดรถยนต์ตากแดดเป็นระยะเวลานานด้วย

 

4. ไม่ควรชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC บ่อย

     การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC นั้นเป็นการช่วยทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาก็จริง แต่ก็อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้ไวขึ้น หากชาร์จไฟฟ้าระบบ DC บ่อยจนเกินไป เนื่องจากขณะที่ชาร์จไฟระบบ DC จะเกิดอุณหภูมิสูง ทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานหนัก ยิ่งหากเจออากาศที่สูงด้วยแล้ว ก็อาจจะไม่ส่งผลดีกับแบตเตอรี่รถนั้นเอง