เข้าหน้าหนาว ควรดูแลแผงโซล่าเซลล์อย่างไร

หน้าหนาว
เมื่อเข้าช่วงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงปลายฝน-ต้นหนาว หน้าหนาวนี้ในความเป็นเอกลักษณ์ของฤดูการณ์ก็คือ “หมอก” นั่นเอง เจ้าหมอกนี่ช่วงเช้าจะเยอะ     จนสามารถรวมตัวกันเป็นน้ำค้างบนหลังคา ใบไม้ ยอดหญ้า และบนหน้าแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งตรงนี้เองจะเป็นเหตุให้ฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ มาจับบนหน้า         แผงโซล่าเซลล์ ได้ง่ายขึ้น โดยจับลักษณะ ดิน+น้ำ=โคลน แล้วก็จะแห้งติดช่วงสายๆ ซึ่งแน่นอนเราต้องออกแรงปีนขึ้นล้างจึงจะออก ตัวช่วยอย่างลม                  ก็พัดฝุ่นออกไม่ได้ หากใครติดตั้งระบบ Solar roof top ได้ควักกระเป๋าจ้างคนมาล้างแน่นอน
“แบตเตอรี่” สำหรับระบบใครที่ไม่ใช่ระบบแบบ OnGrid ต้องมีแบตเตอรี่แน่นอน ควรเช็คน้ำกลั่นบ่อยๆ หากน้ำกลั่นลดลงจนต่ำกว่าระดับที่กำหนด(มีขีดบอก    ที่แบตเตอรี่) ความสามารถในการเก็บพลังงานไฟฟ้าของแบตเตอรี่ก็จะลดลงด้วย เป็นเหตุให้เรามีไฟใช้น้อยลง ส่วนใครใช้แบตเตอรี่เจลหรือแบตเตอรี่แห้ง      ก็อย่าลืมเช็คการต่อสายไฟที่ขั่วแบตเตอรี่ให้แน่นอยู่เสมอ
หากใครมี “เครื่องควบคุมการชาร์จ” ประเภทแยกออกมาต่างหากจากเครื่องแปลงไฟ อุปกรณ์นี้ไม่มีอะไรน่าห่วงมาก แต่สำหรับใครที่ใช้สายไฟชนิด VAF ที่เป็นสายขาวๆ แข็งๆ ที่เรามักใช้เดินสายไฟในบ้านกัน บางคนเรียกว่าสายแข็ง หากใครใช้สายประเภทนี้ต่อที่ขั่วเครื่องควบคุม ควรเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องเช็ค “จุดต่อสาย” ที่ตัวเครื่องควบคุมการชาร์จ เพราะมันออกแบบมาให้ใช้กับสายอ่อน หากเราใช้สายแข็ง ส่วนมากแล้วน็อตที่จุดต่อสายจะคลายตัว ทำให้สายไฟหลวม เป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้าเดินไม่สะดวก
หน้าหนาว สัตว์ทั่วๆไปมันก็หนาวเช่นกัน ควรระวังจิ้งจกและมดเข้าไปยึด “เครื่องแปลงไฟ” เป็นศูนย์อพยพชั่วคราวเพื่อบรรเทาภัยหนาว โปรดอย่าใจดี เพราะมันมักจะเข้าไปฆ่าตัวตายข้างในโดยการใช้ตัวมันเป็นสื่อให้ไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเหตุให้อินเวอร์เตอร์ที่เราซื้อมาพังไปด้วย เหตุการณ์นี้สามารถป้องกันได้โดย      ใช้ลูกเหม็นหรือการบูร เอาไปแขวนหรือวางใว้ตรงที่คิดว่าจิ้งจกมันเข้าได้ ส่วนการป้องกันมดค่อนข้างลำบาก เพราะมีขนาดล็ก จะปิดรูระบายอากาศเครื่องแปลงเพื่อไม่ให้มดมันเข้าก็ไม่ได้ บางคนอาจจะใช้วิธีด้านในกล่องใสใส่น้ำ ส่วนที่สายไฟใช้ผ้าชุบน้ำมันเครื่องพันใว้ อาจจะพอช่วยได้ในระดับนึง