ทำความรู้จักกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟ

รถกอล์ฟเป็นพาหนะสำคัญในการคมนาคมในสนามกอล์ฟ รถกอล์ฟจะเงียบมากขณะขับขี่เนื่องจากเป็นแบบไฟฟ้า ในประเภทของรถไฟฟ้า ซึ่งแบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระยะทางของรถกอล์ฟไฟฟ้า ทั่วไปมักจะมีแบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้าที่มีความจุระหว่าง 100-200ah ความจุของแบตเตอรี่นี้จะมีผลต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ในการใช้งานที่ปกติ ประเภทของแบตเตอรี่ก็ส่งผลประสิทธิภาพการใช้งานของรถด้วย วันนี้บีทูเอชโซล่าร์จึงขอนำเสนอ สาระความรู้ เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟ รวมถึงวิธีการดูแลรักษามาฝากกันค่ะ

รถกอล์ฟใช้แบตเตอรี่ชนิดใด?

ในอดีต รถกอล์ฟใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรด เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือและคุ้มค่า ทำงานโดยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแผ่นตะกั่วกับกรดซัลฟิวริก แต่แบตเตอรี่ตะกั่วกรดค่อนข้างหนักและเทอะทะ น้ำหนักที่มากนี้จะเพิ่มน้ำหนักให้กับรถกอล์ฟ ทำให้ความเร็วและประสิทธิภาพลดลง แต่ปัจจุบันเนื่องจากการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ทำให้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมขั้นสูง ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิต ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียม เช่น ความจุแบตเตอรี่ความหนาแน่นของพลังงาน อัตราการคายประจุเอง อายุการใช้งาน  นั้นเหนือกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด ดังนั้นรถกอล์ฟส่วนใหญ่จึงใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นหลัก

ข้อมูลเบื้องต้นของแบตเตอรี่รถกอล์ฟ

1. โดยปกติแบตเตอรี่รถกอล์ฟจะใช้ แรงดันไฟฟ้า: 12 โวลต์ 24โวลต์ 48 โวลต์ 60 โวลต์ 72 โวลต์ และกระแสไฟฟ้า: 100-200 แอมป์
2. สำหรับรถกอล์ฟที่ใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรด หากใช้แบตเตอรี่ 24 โวลต์ จะมีแบตเตอรี่ 12 ก้อน
3. สำหรับรถกอล์ฟที่ใช้บตเตอรี่ลิเธียมไอออน หากใช้แบตเตอรี่ 24v จะมีเซลล์ 7-8 ก้อน
4. การวิ่งของรถกอล์ฟไฟฟ้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่มีผลต่อระยะทางทำให้สามารถวิ่งได้ในแต่ละครั้ง ปัจจัยสำคัญที่มีผลมากที่สุดคือความจุของแบตเตอรี่ ลักษณะของพื้นที่การใช้งาน และสภาพแวดล้อมที่รถกอล์ฟไฟฟ้าใช้งาน แบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระยะทางของรถกอล์ฟไฟฟ้า ทั่วไปมักจะมีแบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้าที่มีความจุระหว่าง 100-200ah ความจุของแบตเตอรี่นี้จะมีผลต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ในการใช้งานที่ปกติ การชาร์จแบตเตอรี่ครั้งหนึ่งจะสามารถให้พลังงานในการวิ่งรถได้ในระยะทางประมาณ 20-40 กิโลเมตร

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถกอล์ฟ

การดูแลแบตเตอรี่รถกอล์ฟทำง่ายๆดังนี้
1. เติมน้ำกลั่น: ตรวจสอบน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ต่ำกว่าแถบสูงสุดที่กำหนด การที่ระดับน้ำต่ำอาจทำให้แผ่นธาตุในส่วนที่ไม่โดนน้ำเกิดความร้อนสูงและสามารถไหม้ได้
2. ชาร์จไฟ: ห้ามปล่อยแบตเตอรี่ให้หมดเป็นระยะเวลานานโดยไม่ชาร์จเลย เพราะจะทำให้น้ำกรดเจือจางและเกิดซัลเฟตเกาะที่แผ่นธาตุ ทำให้แบตเตอรี่ชำรุ
3. การรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม: รักษาแบตเตอรี่ในสภาพอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งมักอยู่ในช่วง 15-25 องศาเซลเซียส หากจะใช้รถกอล์ฟในสภาพอุณหภูมิต่ำ
4. การทำความสะอาด: ตรวจสอบขั้วและสายของแบตเตอรี่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคราบหรือสารตกค้าง ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและแปรงทำความสะอาดสารสกัดอย่างระมัดระวัง
วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมมีดังนี้:
1. ใช้เครื่องชาร์จที่ตรงกันเพื่อชาร์จ
2. หลีกเลี่ยงการชาร์จมากเกินไปและการคายประจุมากเกินไป และให้ความสนใจกับเวลาในการชาร์จ
3. เมื่อจอดรถรถกอล์ฟเป็นเวลานาน ควรใส่ใจตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบตเตอรี่หมดและส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
4. ควรจอดรถในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม

วิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถกอล์ฟ

ขั้นตอนที่ 1: ปิดเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบแบตเตอรี่ว่ารถกอล์ฟของคุณใช้แบตเตอรี่ประเภทไหน ขนาดแบตเตอรี่ถูกต้องหรือไม่
ขั้นตอนที่ 3: เตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถกอล์ฟ
ขั้นตอนที่ 4: ถอดแบตเตอรี่เดิม ใช้อุปกรณ์ถอดขั้วของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งออกจากรถ
ขั้นตอนที่ 5: ติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ โดยนำแบตเตอรี่ใหม่มาติดตั้งในตำแหน่งที่ถอดออกมา ให้ขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 6: ทำการทดสอบรถกอล์ฟเพื่อตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ใหม่ทำงานได้อย่างถูกต้อง

ที่บีทูเอชโซลาร์ จำหน่ายแบตเตอรี่รถกอล์ฟหลากหลายประเภท หากท่านใดสนใจสามารถทักสอบถามหรือติดต่อได้ที่เบอร์

085-253-8123